อปิโก้เท 3,500ล้าน ควงSakthi อินเดีย ขยายลงทุนชิ้นส่วน

- Advertisement -spot_imgspot_img
- Advertisement -spot_imgspot_img

กลุ่มอาปิโกเข้าลงทุน 3,500 ล้านบาท ($US100 Million) มุ่งสู่การเป็นผู้ผลิตชั้นนำในตลาดโลก ครั้งแรกในประวัติศาสตร์สำหรับอุตสาหกรรมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ลำดับที่ 1 ที่บริษัทสัญชาติอินเดียและสัญชาติมาเลเซีย-ไทยได้ลงนามในความร่วมมือทางธุรกิจเพื่อพัฒนาและเสริมความแข็งแกร่งทางธุรกิจเพื่อการเติบโตในระยะยาว

นายเย็บ ซู ชวน ผู้ก่อตั้งและประธานกลุ่ม บริษัท อาปิโก ไฮเทค จำกัด (มหาชน) บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (“AH”) ได้ประกาศการเข้าลงทุนในกลุ่มบริษัท Sakthi Automotive Group โดยมีมูลค่าการลงทุนจำนวน 3500 ล้านบาท ( 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ )ซึ่งบริษัทฯ จะเข้าเป็นหุ้นส่วนสำคัญทางธุรกิจเพื่อพัฒนาและขยายธุรกิจของบริษัทให้ก้าวไปสู่ระดับสากล ด้วยฐานการผลิตของกลุ่มบริษัท Sakthi ที่อยู่ทั่วโลก ในขณะที่กลุ่มบริษัท Sakthi ได้ตกลงที่จะลงทุนจำนวน 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐในธุรกิจการผลิตชิ้นส่วนโครงช่วงล่างและชิ้นส่วนตีอัดขึ้นรูปของกลุ่มบริษัทอาปิโกในอนาคตอันใกล้
“กลุ่มบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ระดับโลกต่างต้องการร่วมงานกับบริษัทครอบครัวที่มีความมั่นคงและประสบความสำเร็จ ซึ่งเป็นเหตุผลที่เราตัดสินใจเข้าเป็นหุ้นส่วนกับกลุ่ม Sakthi เพื่อที่จะเติบโตในระดับสากล” นายเย็บ ซู ชวน ประธานกลุ่มบริษัทอาปิโกระบุ
นาย Manickam Mahalingam ประธานกลุ่มบริษัท Sakthi กล่าวว่า ความร่วมมือทางธุรกิจนี้จะช่วยส่งเสริมการเติบโตของ Sakthi ด้วยการเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ในส่วนธุรกิจชิ้นส่วนโครงช่วงล่างและชิ้นส่วนตีอัดขึ้นรูปเพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์
ความร่วมมือนี้เปรียบเสมือนการแต่งงานที่มีเอกลักษณ์พิเศษระหว่าง “Incredible India” และ “Amazing Thailand” เข้าด้วยกัน ซึ่งได้ผ่านมติอนุมัติจากคณะกรรมการบริษัทของบริษัท อาปิโก ไฮเทค จำกัด (มหาชน) และ Sakthi Automotive Group และลงนามในสัญญาในวันที่ 25 พ.ค. 60
ทั้งนี้  กลุ่มบริษัท Sakthi ได้ตกลงที่จะลงทุนจำนวน 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐในธุรกิจการผลิตชิ้นส่วนโครงช่วงล่างและชิ้นส่วนตีอัดขึ้นรูปของกลุ่มบริษัทอาปิโกในอนาคตอันใกล้
สำหรับกลุ่มอาปิโกเป็นบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์มาตรฐานระดับโลกและเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่มีรายได้รวมสูงสุด ด้วยยอดขายที่ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนโครงช่วงล่างรถกระบะ ชิ้นส่วนโลหะปั๊มขึ้นรูป ชิ้นส่วนโลหะตีอัดขึ้นรูปและกลึงเจียผิว ชิ้นส่วนพลาสติกและถังน้ำมันพลาสติก ท่อน้ำมันและท่อน้ำมันเบรก และชิ้นส่วนฝากระโปรงท้าย กลุ่มลูกค้าหลักของบริษัท ได้แก่ อีซูซุ นิสสัน โตโยต้า มาสด้า ฟอร์ด ฮอนด้า เจนเนอรัลมอเตอร์ และผู้ผลิตรายอื่นในประเทศไทย รวมถึง เอสจีเอ็มดับบลิว (SGMW) เชอรี่ (Chery) และชไนเดอร์ (Schneider) ในสาธารณรัฐประชาชนจีน และ GKN Dana และผู้ผลิตอื่นในตลาดต่างประเทศ
กลุ่ม Sakthi Automotive Group เป็นผู้นำในกลุ่มผู้ผลิตและจัดจำหน่ายระดับโลกสำหรับชิ้นส่วนโครงช่วงล่างและระบบส่งกำลังรถยนต์ด้านความปลอดภัย (Chassis and Powertrain Safety Critical Components) รวมถึงชิ้นส่วนหล่อขึ้นรูปโลหะและอลูมิเนียม (Iron & Aluminum Castings) โดยมีฐานการผลิตในสหรัฐอเมริกา ประเทศเม็กซิโก (อยู่ในแผนงาน) สาธารณรัฐประชาชนจีน ยุโรป และประเทศอินเดีย ปัจจุบัน กลุ่ม Sakthi Automotive Group มีส่วนแบ่งการตลาดที่สูงที่สุดสำหรับ Iron & Aluminum Steering Knuckles สำหรับกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ลำดับที่ 1 ทั่วโลก กลุ่มลูกค้าหลัก ได้แก่ เจนเนอรัลมอเตอร์ ฟอร์ดมอเตอร์ โฟล์คสวาเกน ซูซุกิ ฮุนได โตโยต้า นิสสัน จีลี่ วอลโว่ ฉางอาน เอสเอไอซี เชอรี่ บีวายดี และอื่นๆ. ทั้งนี้ กลุ่ม Sakthi ได้พัฒนาศูนย์บริการเทคนิคระดับโลกสำหรับการออกแบบ พัฒนาและทดสอบอุปกรณ์ต่างๆ ในดีทรอย และมีพนักงานมากกว่า 500 คน ซึ่งรวมกว่า 100 สัญชาติทั่วโลก
“Sakthi Automotive Group ตั้งเป้าในการเป็นหนึ่งในผู้จัดจำหน่ายระดับโลก 100 ลำดับแรกภายในปี 2020” วิสัยทัศน์ของ Mr. Lalit Verma ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ Sakthi Automotive Group
ทั้งสองบริษัทเห็นตรงกันว่าความร่วมมือทางธุรกิจนี้จะช่วยเพิ่มศักยภาพให้กับกลุ่มอาปิโกในเวทีโลกในการพัฒนาธุรกิจชิ้นส่วนโครงช่วงล่างและชิ้นส่วนโลหะตีอัดขึ้นรูปด้วยกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นจากทรัพยากรของกลุ่ม Sakthi ในอเมริกาเหนือ สาธารณรัฐประชาชนจีน อินเดีย และยุโรป เพิ่มเติมจากฐานการผลิตปัจจุบันของบริษัทในประเทศไทย ทั้งนี้ ปริมาณการผลิตรถยนต์ทั่วโลกในปี 2559 มีจำนวนประมาณ 100 ล้านคัน ซึ่งปัจจุบัน กลุ่มอาปิโกมีกำลังการผลิตครอบคลุมที่ประมาณ 3 ล้านคัน คิดเป็นอัตราร้อยละ 3 ของตลาดโดยรวม และการเข้าลงทุนนี้จะช่วยเพิ่มช่องทางให้กลุ่มบริษัทอาปิโกในการเติบโตเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายระดับโลกในอนาคต
กลุ่ม Sakthi คาดว่าจะได้ประโยชน์จากความสัมพันธ์ของอาปิโกกับกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นในการขยายธุรกิจของชิ้นส่วนหัวต่อแกนล้อ (Steering Knuckle) กับกลุ่ม OEMs และขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ไปสู่โครงช่วงล่างและชิ้นส่วนโลหะปั๊มขึ้นรูปอื่นๆ ควบคู่ไปกับชิ้นส่วนตีอัดขึ้นรูปและกลึงเจียผิว
หุ้นส่วนทางธุรกิจนี้เป็นความร่วมมือระหว่างสองกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ที่ดำเนินงานโดยกลุ่มครอบครัวที่มีประสบความสำเร็จในอุตสาหกรรมการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์มายาวนาน ซึ่งคาดว่าจะทำให้เพิ่มรายได้ได้อย่างมากในระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า และเพิ่มความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้ผลิตยานยนต์ในระดับสากล เนื่องจากทั้งสองบริษัทต่างเป็นผู้ผลิตที่มีคุณภาพมาตรฐานสากลและมุ่งมั่นในอุตสาหกรรมยานยนต์ชิ้นส่วน ด้วยประสบการณ์อันยาวนานรวมกันกว่า 50 ปี
สำหรับกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์จะได้รับประโยชน์ในด้านการออกแบบ ความเชี่ยวชาญในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และคุณภาพระดับโลก ด้วยต้นทุนที่แข่งขันได้ของภูมิภาคอาเซียน สำหรับตลาดชิ้นส่วนรถยนต์ในสหรัฐอเมริกา เม็กซิโก ยุโรป จีน อินเดีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และแอฟริกาใต้
ปัจจุบัน กลุ่ม Sakthi และกลุ่มอาปิโกได้รับความร่วมมือจากผู้บริหารระดับสูงในอุตสาหกรรมยานยนต์ในการเป็นกรรมการและที่ปรึกษาของบริษัท อาทิ เช่น Mr. Tony Brown (อดีตรองประธานฝ่ายจัดซื้อและฝ่ายผลิตของฟอร์ด มอเตอร์) Mr. John Calabrese (อดีตรองประธานวิศวกรรม เจเนอรัลมอเตอร์) Mr. Esam Alnasery (อดีตรองประธานวอลมาร์ท) รวมถึง Mr. John Parker (อดีตประธานฟอร์ดเอเซียแปซิฟิค) ซึ่งประสบการณ์ของผู้ทรงคุณวุฒิเหล่านี้จะช่วยส่งเสริมและวางแนวทางเชิงยุทธศาสตร์ในระยะยาวเพื่อสนับสนุนการเติบโตของบริษัทในอนาคต
 
 

Advertisements
Advertisements
- Advertisement -spot_imgspot_img

Latest news

Advertising

spot_img

Related news

- Advertisement -spot_img