โตโยต้าคือค่ายรถญี่ปุ่นค่ายแรกที่ ขานรับมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าด้วยการ ร่วมลงนามข้อตกลงกับ กรมสรรพสามิต ซึ่งจะได้เงินสนับสนุนตาม มาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าของรัฐ
พิธีลงนามข้อตกลงระหว่างกรมสรรพสามิตกับโตโยต้า ผู้นำตลาดรถยนต์เมืองไทย มีขึ้นเมื่อวันที่ 29 เม.ย.2565 ซึ่งจะทำให้โตโยต้า เป็นค่ายรถค่ายที่ 3 ในตลาดไทยที่ลงนามในข้อตกลงนี้ต่อจาก MG และ GWM และโตโยต้ายังถือเป็นค่ายญี่ปุ่นค่ายแรกที่ เข้าร่วมมาตรการการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ตามแนวทางของ คณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ
ภายใต้การลงนามฯ นี้ โตโยต้า จะได้รับสิทธิในการรับเงินอุดหนุนพร้อมทั้งสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากการจำหน่ายรถยนต์ BEV รุ่นที่ขอรับสิทธิ โดย บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด คือ Toyota bZ4X จำนวน 1 รุ่น ซึ่งโตโยต้า จะนำเสนอรถยนต์รุ่นดังกล่าวออกสู่ตลาดภายใต้ราคาขายปลีกที่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีและเงินอุดหนุน ราวๆ ไตรมาส 2 ปีนี้
เพื่อเป็นการสร้างแรงจูงใจในด้านราคาจำหน่ายที่ลดลง กระตุ้นให้ผู้บริโภคเข้าถึงการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้าได้มากขึ้น สอดคล้องกับพันธกิจใหม่ขององค์กร ในการนำเสนอการขับเคลื่อนที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย และเป็นผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย
ทั้งนี้ ภายใต้วิสัยทัศน์ใหม่ของโตโยต้า ในการ “เป็นผู้นำพาการขับเคลื่อนยุคใหม่ เพื่อเสริมสร้างความสุขของผู้คน และความยั่งยืนของสังคม” ได้กำหนดหนึ่งในพันธกิจหลักขององค์กร คือ การนำพาประเทศมุ่งสู่ “ความเป็นกลางทางคาร์บอน” หรือ Carbon Neutrality โดยหนึ่งในกลไกสำคัญในการบรรลุเป้าหมายดังกล่าวคือการแนะนำรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าให้เป็นที่ใช้งานอย่างแพร่หลาย ซึ่งโตโยต้าได้มีการเตรียมความพร้อมในการวิจัยและพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าหลากหลายระบบส่งกำลัง เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการใช้งานของลูกค้าได้ทุกรูปแบบ รวมถึงมีการริเริ่มโครงการความร่วมมือกับหลายภาคส่วน เพื่อศึกษารูปแบบการใช้งาน การยกระดับทักษะแรงงานเพื่อรองรับยานยนต์ยุคหน้า ระบบพลังงาน และโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวเนื่อง เหมาะสมกับบริบทการใช้งานของประเทศไทย อาทิ โครงการพัฒนาเมืองต้นแบบที่ยั่งยืนปราศจากมลภาวะ ร่วมกับเมืองพัทยา เป็นต้น เพิ่อเป็นการส่งเสริมให้เกิดการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคยานยนต์ไฟฟ้าอย่างไร้รอยต่อ กระตุ้นให้เกิดการลงทุนในอุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องในประเทศเพิ่มมากขึ้น อันจะเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าแห่งภูมิภาคของโตโยต้าต่อไป